ยุคหลังโควิด-19 ได้จุดกระแส “งานไกลบ้าน” หรือการทำงานต่างถิ่นให้กลายเป็นเทรนด์แรงในไทย โดยเฉพาะในกลุ่มคนวัยทำงานรุ่นใหม่ที่ไม่ยึดติดกับสำนักงานแบบเดิมๆ หากมีอินเทอร์เน็ตและอุปกรณ์พร้อม ก็สามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นภูเขา ทะเล หรือเมืองเล็กต่างจังหวัด แนวโน้มนี้ไม่ใช่เพียงปรากฏการณ์ชั่วคราว แต่เริ่มกลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีการทำงานยุคใหม่แล้ว
ใครคือกลุ่มที่ได้ประโยชน์?
1. คนทำงานสายดิจิทัล
อาชีพที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี เช่น โปรแกรมเมอร์ นักออกแบบกราฟิก นักเขียนคอนเทนต์ นักการตลาดออนไลน์ ฯลฯ ล้วนมีอิสระในการเลือกสถานที่ทำงาน จึงสามารถย้ายออกจากเมืองหลวงที่ค่าครองชีพสูง ไปอยู่ต่างจังหวัดที่มีบรรยากาศผ่อนคลายและประหยัดมากขึ้น
2. คนเมืองที่อยากเปลี่ยนไลฟ์สไตล์
หลายคนเลือกย้ายไปอยู่จังหวัดที่สงบ อากาศดี เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิต โดยไม่กระทบต่อรายได้ เพราะยังสามารถทำงานออนไลน์ให้กับบริษัทเดิมหรือรับงานจากลูกค้าต่างประเทศได้เหมือนเดิม
3. ธุรกิจท้องถิ่น
การมาของคนทำงานจากเมืองใหญ่ ทำให้เศรษฐกิจในท้องถิ่นขยับตัว เช่น ร้านกาแฟ Co-working space หรือที่พักแบบรายเดือนในเมืองท่องเที่ยวเริ่มมีลูกค้ากลุ่มใหม่ที่ไม่ใช่นักท่องเที่ยวระยะสั้น แต่เป็น “คนทำงานประจำ” ที่ย้ายมาชั่วคราวหรือถาวร
ข้อดีของงานไกลบ้าน
• ลดค่าใช้จ่าย: ค่าครองชีพต่างจังหวัดต่ำกว่ากรุงเทพฯ อย่างเห็นได้ชัด
• ลดความเครียด: สภาพแวดล้อมที่สงบ ทำให้มีสมาธิและสุขภาพจิตดีขึ้น
• เพิ่มโอกาสในการใช้ชีวิตแบบสมดุล: มีเวลาสำหรับครอบครัวและการพักผ่อนมากขึ้น
• ช่วยกระจายรายได้ออกจากเมืองหลวง: ลดความเหลื่อมล้ำทางภูมิภาค
ข้อควรพิจารณาก่อนย้ายไปทำงานไกลบ้าน
แม้จะมีข้อดีหลายอย่าง แต่ก็ต้องคำนึงถึงข้อจำกัด เช่น สัญญาณอินเทอร์เน็ตในบางพื้นที่ ความพร้อมของที่อยู่อาศัย และความห่างไกลจากสิ่งอำนวยความสะดวกเฉพาะด้าน (เช่น โรงพยาบาลเฉพาะทาง)
อีกทั้งบริษัทต้นสังกัดก็ต้องมีระบบบริหารจัดการที่รองรับการทำงานระยะไกล เช่น การประเมินผลงานออนไลน์ การประชุมผ่านวิดีโอ และเครื่องมือสำหรับการติดตามงาน
บทสรุป
เทรนด์ “งานไกลบ้าน” เป็นอีกหนึ่งแนวทางที่สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงของโลกการทำงานในยุคดิจิทัล ทั้งบุคคลและองค์กรต่างต้องปรับตัวให้ทัน เพื่อใช้โอกาสนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และหากวางแผนให้ดี งานไกลบ้านก็อาจเป็นคำตอบของชีวิตการทำงานที่มีความสุขมากขึ้นในระยะยาว