1. เงินเดือนเริ่มต้น
หากเปรียบเทียบเฉพาะเงินเดือนเริ่มต้น "เอกชน" มักให้ค่าตอบแทนที่สูงกว่า โดยเฉพาะบริษัทขนาดกลางถึงใหญ่ ส่วน "รัฐวิสาหกิจ" อยู่ในระดับกลางถึงสูง ขึ้นอยู่กับตำแหน่งและหน่วยงาน ส่วน "ราชการ" เงินเดือนเริ่มต้นจะต่ำที่สุดใน 3 กลุ่ม โดยวุฒิปริญญาตรีจะเริ่มที่ประมาณ 15,000–18,000 บาท
2. การปรับเงินเดือน
ในภาค "ราชการ" การขึ้นเงินเดือนมีโครงสร้างชัดเจนตามขั้นและเกณฑ์ประเมิน โดยเฉลี่ยจะปรับปีละ 1–2 ครั้ง แต่ขึ้นช้าเมื่อเทียบกับเอกชน ส่วน "รัฐวิสาหกิจ" จะมีการประเมินตามผลงาน ผสมกับโครงสร้างองค์กร ขณะที่ "เอกชน" มีความยืดหยุ่นสูง บางบริษัทขึ้นปีละหลายครั้งตาม performance
3. สวัสดิการ
"ราชการ" โดดเด่นเรื่องความมั่นคงและสวัสดิการ เช่น เบิกค่ารักษาพยาบาลได้ทั้งตนเองและครอบครัว เงินบำเหน็จบำนาญ และสิทธิ์กู้ยืมกับสหกรณ์อัตราดอกเบี้ยต่ำ "รัฐวิสาหกิจ" มีสวัสดิการคล้ายราชการ แต่มักมีความยืดหยุ่นมากขึ้น เช่น โบนัส หรือกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ส่วน "เอกชน" สวัสดิการขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัท บางแห่งให้ดีมาก เช่น ประกันสุขภาพ โบนัสสูง แต่ไม่มีความมั่นคงเท่าราชการ
4. โบนัสและผลตอบแทนพิเศษ
"เอกชน" มักจ่ายโบนัสปีละ 1–3 เดือน หรือมากกว่านั้นในบางบริษัท โดยเฉพาะสาย IT, การเงิน หรือการผลิต ส่วน "รัฐวิสาหกิจ" ก็มีโบนัสเช่นกัน เฉลี่ยอยู่ที่ 2–6 เดือน ขึ้นกับผลประกอบการ ส่วน "ราชการ" ไม่มีโบนัสประจำปีในรูปแบบเดียวกัน อาจมีเพียงค่าตอบแทนพิเศษ หรือเงินตกเบิกบางกรณี
5. ความมั่นคงในอาชีพ
ในมุมของความมั่นคง "ราชการ" ยังเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่ง เพราะมีโอกาสถูกเลิกจ้างต่ำมาก (ยกเว้นทำผิดวินัยร้ายแรง) รองลงมาคือ "รัฐวิสาหกิจ" ที่ยังมีความมั่นคงสูงแต่ก็มีการปรับโครงสร้างอยู่บ้าง ส่วน "เอกชน" มีความเสี่ยงมากกว่า โดยเฉพาะในช่วงเศรษฐกิจไม่แน่นอน
สรุป
การเลือกทำงานในภาคราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือเอกชน ขึ้นอยู่กับเป้าหมายชีวิตของแต่ละคน หากคุณต้องการความมั่นคงในระยะยาว ราชการคือคำตอบ หากอยากได้รายได้ดีและเติบโตเร็ว รัฐวิสาหกิจหรือเอกชนอาจตอบโจทย์กว่า การเปรียบเทียบเงินเดือนและสวัสดิการจะช่วยให้คุณวางแผนอนาคตอาชีพได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น