งานด้านบริการลูกค้า
ภายใน 5 ปีข้างหน้า งานในสายบริการลูกค้าอย่าง call center หรือพนักงานตอบคำถามเบื้องต้น มีแนวโน้มจะถูกแทนที่ด้วย AI เช่น chatbot หรือ voice assistant ที่สามารถให้ข้อมูลและช่วยแก้ปัญหาได้ตลอด 24 ชั่วโมงโดยไม่เหนื่อย ไม่ลาป่วย และไม่ต้องพักกลางวัน การพัฒนาด้าน NLP (Natural Language Processing) ช่วยให้การโต้ตอบของ AI มีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น จนลูกค้าหลายคนไม่ทันสังเกตว่านี่ไม่ใช่มนุษย์
พนักงานแคชเชียร์และพนักงานเก็บเงิน
ระบบ self-checkout และ mobile payment กำลังกลายเป็นมาตรฐานในร้านค้าปลีกจำนวนมาก ส่งผลให้ความต้องการพนักงานแคชเชียร์ลดลงอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ การใช้กล้องและ AI ในการตรวจจับสินค้าและคิดเงินแบบอัตโนมัติ เช่น Amazon Go ยิ่งทำให้การใช้แรงงานคนในงานลักษณะนี้ลดน้อยลง
พนักงานป้อนข้อมูลและงานเอกสารซ้ำ ๆ
งานที่ต้องป้อนข้อมูล ซ้ำ ๆ ตรวจสอบความถูกต้องของเอกสาร หรืองานประมวลผลตัวเลขแบบเดิม ๆ มีแนวโน้มจะถูกแทนที่ด้วย RPA (Robotic Process Automation) และระบบ AI ที่สามารถเรียนรู้ขั้นตอนการทำงานและทำซ้ำได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว ช่วยลดความผิดพลาดของมนุษย์ และลดต้นทุนการจ้างงาน
งานด้านแปลภาษาเบื้องต้น
เครื่องมือแปลภาษาด้วย AI อย่าง Google Translate หรือ DeepL มีความแม่นยำและรวดเร็วขึ้นมาก โดยเฉพาะการแปลภาษาทั่วไปหรือเนื้อหาที่ไม่มีบริบทซับซ้อน ทำให้การจ้างนักแปลในระดับทั่วไปอาจลดลงอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม นักแปลเชิงสร้างสรรค์หรือเนื้อหาที่ต้องอาศัยบริบทและวัฒนธรรม ยังจำเป็นต้องใช้มนุษย์
พนักงานขับรถบางประเภท
เทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว และเริ่มมีการทดสอบใช้งานจริงในบางประเทศแล้ว ในอีก 5 ปีข้างหน้า อาชีพเช่น พนักงานส่งของระยะสั้น หรือคนขับรถแท็กซี่ในเขตเมือง อาจถูกแทนที่ด้วยยานพาหนะอัตโนมัติในบางพื้นที่
ข้อคิดท้ายบทความ
แม้ AI จะเข้ามาแทนที่งานบางประเภท แต่ก็ยังเปิดโอกาสให้เกิดอาชีพใหม่ ๆ โดยเฉพาะงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ การวางแผนเชิงกลยุทธ์ และความเข้าใจในมนุษย์ สิ่งสำคัญคือการปรับตัว เรียนรู้ทักษะใหม่ และใช้ AI เป็นเครื่องมือเสริมศักยภาพ มากกว่าจะมองว่าเป็นภัยคุกคาม