เข้าใจคนรุ่นใหม่ผ่านมุมมองที่แตกต่าง
หลายองค์กรเริ่มตั้งคำถามว่าทำไมคนรุ่น Gen Z ถึงเปลี่ยนงานบ่อย บางคนอยู่ไม่ถึงปีด้วยซ้ำก็โบกมือลาออกไปแล้ว ไม่ใช่แค่เรื่องเงินเดือนหรือสวัสดิการ แต่เบื้องหลังมีอะไรมากกว่านั้น เราได้พูดคุยกับ “มีน” หนุ่มวัย 23 ปี ที่ลาออกจากงานแรกในเวลาไม่ถึง 10 เดือน เพื่อเข้าใจแรงผลักดันที่อยู่เบื้องหลังการตัดสินใจของคนรุ่นนี้
“งานไม่ใช่แค่รายได้ แต่มันต้องมีคุณค่า”
มีนเล่าว่า งานแรกของเขาในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง เงินเดือนถือว่าโอเค เพื่อนร่วมงานก็ดี แต่ปัญหาคือ “ผมรู้สึกว่าตัวเองไม่มีโอกาสเติบโต ไม่มีใครสนใจไอเดีย ไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจนว่าสิ่งที่ทำอยู่จะพาผมไปไหนในอีก 3 ปี”
Gen Z เติบโตมากับแนวคิดเรื่องการใช้ชีวิตให้มีความหมาย พวกเขาไม่ได้มองแค่ว่าทำงานไปเพื่อรอเงินเดือนสิ้นเดือน แต่ต้องการเห็นว่าเวลาที่ทุ่มเทไปนั้นสร้างผลลัพธ์อะไรบ้าง และส่งผลอย่างไรกับชีวิตเขาในอนาคต
ไม่กลัวลาออก เพราะมีทางเลือกมากขึ้น
“เมื่อก่อนการลาออกคือความเสี่ยง แต่ตอนนี้มีแพลตฟอร์มและโอกาสมากมาย ไม่ได้ทำงานบริษัทก็หาเงินได้จากออนไลน์” มีนบอก
Gen Z เติบโตมากับเทคโนโลยี พวกเขารู้วิธีสร้างรายได้จากอาชีพอิสระ เช่น ขายของออนไลน์ รับงานฟรีแลนซ์ หรือสร้างคอนเทนต์ จึงไม่จำเป็นต้องอดทนกับงานที่ไม่มีความสุขเหมือนคนยุคก่อน
ไม่ใช่เรื่องของ “เด็กสปอยล์” แต่เป็นเรื่องของค่านิยมที่เปลี่ยนไป
หลายคนอาจมองว่า Gen Z ไม่มีความอดทน หรือ “เด็กสปอยล์” แต่ในความจริงคือ พวกเขาเพียงแค่มีค่านิยมที่ต่างออกไป
มีนกล่าวว่า “ผมไม่ได้เกลียดงานนะ แค่รู้สึกว่าเราไม่ควรต้องฝืนทำอะไรที่ไม่มีความหมายกับเราในระยะยาว”
การลาออกของ Gen Z จึงไม่ใช่เพราะไม่อยากทำงาน แต่เป็นเพราะพวกเขากำลังมองหางานที่สอดคล้องกับตัวตนและคุณค่าของชีวิตมากกว่า
บทเรียนที่องค์กรควรเรียนรู้
แทนที่จะตำหนิคนรุ่นใหม่ องค์กรควรหันกลับมาสำรวจตัวเองว่าให้คุณค่ากับพนักงานมากพอหรือยัง มีช่องทางให้เติบโต มีพื้นที่ให้แสดงออก หรือเปิดใจรับฟังบ้างไหม
Gen Z ไม่ได้ต้องการอะไรซับซ้อน แค่ต้องการงานที่ให้ความหมาย สร้างคุณค่า และมีคนที่เห็นคุณค่าของพวกเขาจริง ๆ เท่านั้นเอง