เมื่อถูกถามเกี่ยวกับ “ ข้อเสีย ” ของคุณคืออะไร คนส่วนใหญ่มักจะตกม้าตายกันที่คำถามนี้ เพราะไม่รู้จะตอบอย่างไรดี การที่ผู้สัมภาษณ์มักจะถามคำถามนี้ อาจจะอยากรู้ว่าเรารู้จักตัวเองดีแค่ไหน มีความพยายามพัฒนาตัวเองมากแค่ไหน และดูว่าเรามีไหวพริบแค่ไหนในการตอบคำถามนี้ ดังนั้นคุณควรตอบคำถามอย่างตรงไปตรงมา ไม่มากเกินไป Jobsthainow จึงมีแนวทางการตอบคำถามมาแนะนำ
1. ให้ตอบเกี่ยวกับทักษะที่ยังไม่เก่ง และแสดงให้ผู้สัมภาษณ์เห็นว่า คุณตั้งใจจะพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น โดยคุณได้ลงมือทำแล้วหรือมีแพลนกำลังจะทำในเร็ว ๆ นี้ เช่น
“ ดิฉันพรีเซนต์งานไม่เก่ง ตื่นเต้นทุกครั้งเวลาออกไปพรีเซนต์งาน ทำให้พูดไม่ถูกทุกที ดิฉันจึงเริ่มฝึกพูดบ่อย ๆ หน้ากระจก และลงเรียนคอร์สการพูดเพิ่มเติม จนปัจจุบันได้มีโอกาสพรีเซนต์งานในบริษัท ”
การตอบคำถามแบบนี้ จะทำให้คุณสามารถนำเสนอตัวเองได้อย่างเต็มที่ และสามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้สัมภาษณ์อีกด้วย
2. เลี่ยงการนำเอา “นิสัย” มาตอบเป็นข้อเสีย แต่หากคุณอยากจะเลือกเอานิสัยมาตอบเป็นข้อเสีย คุณควรอธิบายว่าข้อเสียนี้จะไม่กระทบกับการทำงานของคุณ เช่น
“ ดิฉันเป็นคนขี้ลืม เมื่อมีงานอื่น ๆ ที่ต้องทำเพิ่ม ดิฉันมักจะลืมเสมอ ทำให้กระทบกับการทำงาน จากประสบการณ์ที่ผ่าน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหานี้อีก ทุกครั้งที่มีงานอะไรเพิ่มเติมมา ดิฉันก็จะจดบันทึกลงในกระดาษ หรือบันทึกลงในแอพพลิเคชั่นช่วยจำ เพื่อแจ้งเตือนไว้ ”
3. เลี่ยงการตอบคำถามแบบโลกสวยเกินจริง เพราะนั่นดูจะเป็นโฆษณาชวนเชื่อไปหน่อย อย่างที่บอก ไม่ว่าคำตอบจะเป็นแบบไหน ควรยืนอยู่บนพื้นฐานความจริงอย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้คำตอบนั้นดูเป็นมืออาชีพ มีไหวพริบ เช่น
“ ดิฉันเป็นคนทุ่มเทกับงานมากเกินไป ชอบทำงานหนัก ”
เมื่อผู้สัมภาษณ์ฟังดูแล้วอาจรู้สึกว่าคุณดูเป็นคน perfectionist ทำให้มองว่าคุณน่าจะมีข้อเสียอย่างอื่นที่แย่กว่า ดังนั้นคุณควรระวังการใช้ข้อเสียเหล่านี้
ไม่ว่าจะตอบ “ ข้อเสีย ” ของตัวเองเป็นอะไร อย่าพาดพิงถึงบุคคลที่สาม และควรตอบเพียงข้อเดียวพอพร้อมยกตัวอย่างและวิธีแก้ไข ไม่ควรตอบว่า “ ไม่มีข้อเสีย “ เพราะคนเราต่างมีทั้งข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป การตอบคำถามที่อยู่บนพื้นฐานความจริงอย่างตรงไปตรงมา ไม่โอ้อวดเกินจริง เชื่อว่าจะสร้างความประทับใจให้กับผู้สัมภาษณ์ได้อย่างแน่นอน